วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557



ชื่อเจ้าด่วนเป๋นั้นเมื่อตอนหนุ่มออกชนไฟท์เเรกเพียงอายุ8เดือนเศษๆ เอาชนะไก่ลูกเเซมในยกที่2 เเบบม้วนเดียวจบ(เลือดท่วมจอ) ทำให้ได้รับบาดเจ็บจนขาข้างขวาลีบไปข้างนึง เมื่อบาดเเผลหายดีจึงนำไปปล่อยที่ทุ่งนา เนื่องด้วยเป็นไก่ที่มีสายเลือดไก่ชนเจ้าด่วนเป๋ไม่ย้อท้อต่อชะตาชีวิต ขาที่เป๋ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตเเต่อย่างใด ทำให้ขาที่ลีบนั้นกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เมื่อหายดีเเล้วจึงนำเข้ามาทำเนื้อทำตัวเเละฟิตซ้อมใหม่ เพราะเป็นไก่ที่มีประวัติขาลีบจึงเป็นที่หมายปองของบรรดาซุ้มข้างเคียง ไก่เรายังไม่พร้อมออกชนแต่เมื่อเค้ามาท้าเราถึงถิ่น ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมเเล้วเอาใจวัดกันไปเลย(ห้ามลอกเลียนเเบบ) ปล่อยหางเราเป็นรอง3/2-2/1 เเต่ยังไม่รอง (ดูๆเเล้วสู้เค้ายาก) เเต่ฝั่งตรงข้ามเล่นยั่วยุทางเรา เเหม๋มันช่างกล้านักมาถึงถิ่นเราเเล้ว555+ จึงตัดสินใจปล่อยยาวเลยจนวงเงินเล่น+เดิมพัน+จับนอก ไปกว่าหมื่น ซึ่งไก่ปล้ำและสภาพไก่ไม่น่าจะเล่นถึงขนาดนั้น หลังจากเป็นรองในยกเเรกเข้ายกสองเราตีเตื้นขึ้นมาเเบบไม่มีคนต่อ ราคากลับมาเสมอเเละเป็นต่อเเบบไม่มีคนรองเพราะเจ้าด่วนเป๋เล่นเตะเอาเเต่เเผลหูเเละกะบาลเเตก บ่อเลือดเเตกทลักออกมาเเบบซ้อมผู้ต้องหาของตร.สมัยก่อนๆ อิอิ เเละเก็บชัยชนะไปในยกที่ 4 เเบบคู่ต่อสู้หัวเละไม่มีชิ้นดี(ลงหม้อไปตามระเบียบ ฮ่า) หลังจากนั้นเจ้าด่วนเป๋ก็หลุดถ่ายใหญ่ไปเลยครับ ก่อนที่จะกลับมาเริ่มการต่อสู้อีกครั้ง เป็นการเริ่มจากไฟท์เล็กๆที่ชมรมก่อนครับ


 
 
ไก่พันธุ์ไทย

 
 
 




ไก่ไทยเป็นไก่ที่มีลีลาฝีตีนแพรวพราว มีทั้งลูกล่อลูกชนยากจะหาไก่ชาติใดๆเสมอเหมือน คือ ทั้ง กอดขี่ บดบี้ขยี้ ล็อก เท้าหุ่น ตีตัว

มุดมัดและมุดลอดทะลุขา เมื่อเปรียบกับไก่ชาติอื่นๆแล้วถือว่าไก่ชนไทยมีภาษีดีกว่าไก่ชนชาติอื่นๆ แล้วทำไมไก่ชนไทย

จึงตีต่อสู้ไก่ต่างชาติไม่ได้ หรือเป็นเพียงคำพูดที่กล่าวกันเล่นๆ หรือต้องการโปรโมทไก่ชนต่างชาติ แต่ข้อเท็จจริงแล้วมีดังนี้





1. ไก่ชนไทยกับไก่พม่าลูก 100% ไม่มีโอกาสตีกันได้ หรือตีได้ก็น้อยคู่มาก เพราะขนาดของไก่ไทยกับไก่พม่าเป็นไก่คนละขนาด คือ

ไก่พม่าแท้ๆจะมีขนาดเล็กและมีน้ำหนักไม่เกิน 2.5 กก. ตัวที่โต 3.00 กก.ขึ้นมีน้อย ส่วนไก่ไทยตัวที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 กก.

ก็มีน้อยแทบนับตัวได้ ยกเว้นไก่ป่าก๋อยที่มีขนาดเล็ก ไก่พม่าที่นำมาตีกับไก่ไทยในทุกวันนี้ ส่วนมากเป็นลูกผสมหรือลูกผ่านที่

นำไก่พม่ามาผสม กับไก่ไทยเป็นไก่ที่มีเลือดพม่า 50% บ้าง 25% บ้างซึ่งจะมีขนาดโตประมาณ 3.00-3.20 กก. สำหรับไก่ลูกผสม

พม่าที่มาตีกับไก่ไทย 100% นั้น ก็มีแพ้ มีชนะ ไม่ได้ชนะไก่ไทยทุกตัว ดังนั้นจะสรุปว่าไก่ไทยสู้ไก่พม่าไม่ได้นั้นจึงไม่เป็นความจริง

เหตุที่เขานิยมไก่ลูกผสมพม่า ก็เพราะตัวไก่ลูกผสมตัวใดมีลีลาชั้นเชิงแบบไก่พม่า ก็เป็นไก่ที่สามารถปราบไก่เชิงกอดขี่ได้

ซึ่งไก่เชิงกอดขี่นี้เป็นไก่ที่นิยมเลี้ยงกันมาก ด้วยเหตุนี้เขาจึงนำไก่ลูกผสมพม่ามาเล่นเพื่อแก้ทางไก่เชิง ความจริงไก่พม่าก็แพ้

ทางไก่ประเภทเดินอัด เดินบี้จี้ไม่ห่าง จิกหลังจิกไหล่ตี ตีหน้าคอ หน้าอุด ตีตัว ตีหลัง ไก่พม่าทนไม่ได้เพราะกระดูกบาง

ถอดใจหนีง่ายๆ อีกอย่างหนึ่งไก่พม่ามักจะแพ้ทางไก่ประเภท ลูกหน้าไวและไก่แข้งเปล่า หรือดีดลูกหน้าไว เข้าทำนองหมองู

ตายเพราะงู ดังนั้นถ้าเราหาไก่ไทยที่มีชั้นเชิงดังกล่าว ก็สามารถสู้ไก่พม่าได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก 100% หรือลูกผสม

2. ไก่ชนไทยกับไก่ไซง่อนลูก 100% ไก่ไทยกับไก่ไซง่อนมีโอกาสตีกันได้มากกว่าไก่ไทยกับไก่พม่าลูก 100% เพราะมีขนาดใกล้

เคียงกัน ข้อเท็จจริงไก่ไซง่อนมีจุดเด่นมากกว่าไก่ไทยทั่วไป คือ กระดูกโครงสร้างใหญ่ ผิวหนังหนากว่าไก่ไทย ปอดใหญ่กว่า ตี

หนัก ลำโต แต่ไก่ไซง่อนมีจุดอ่อนที่อืดอาด ช้าไม่คล่องตัว ลีลาชั้นเชิงมีน้อย ไก่ไซง่อนลูก 100% ไม่น่ากลัว ไก่ไทยสามารถสู้ได้

คือ เราต้องหา ไก่ตีแผล ตีวงแดง ตีบ้องหู และต้องเป็นไก่ปากไว ไก่ไซง่อนที่เขากลัวกันทุกวันนี้ไม่ใช่ไซง่อนลูก 100%

แต่เขากลัวลูกไซง่อนผสม ที่ผสมไทย ผสมพม่า เพราะไก่ไซง่อนลูกผสมบางตัวมักเป็นไก่ปากไวตีแม่นและตีลำโตแถมมีโครงสร้าง

และผิวพรรณแบบไก่ไซง่อนด้วย

3. เวลาชนของแต่ละยก เรื่องเวลาของแต่ละยกในการชนไก่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไก่ไทยสู้ไก่เทศไม่ได้ เพราะเวลาของการชน

แต่ละยกเพิ่มขึ้นจาก 20 นาที เป็น 23-25 นาที เพื่อให้ไก่แพ้ชนะกันไวขึ้น ซึ่งไก่ไทยสู้ไก่ต่างชาติไม่ได้ตรงนี้เอง เพราะไก่ไทยโดย

สภาพร่างกายมีปอดเล็กกว่าไก่ไซง่อน ดังนั้นเมื่อยืดเวลาในการตีออกไป ไก่ไทยจะหอบ และถูกตีในช่วงเวลาตั้งแต่นาทีที่ 20 เป็นต้นไป

อีกสาเหตุหนึ่งไก่ไทยเป็นไก่เชิงขยันตี จึงต้องออกแรงมาก ทำให้เหนื่อยมากเหนื่อยไว โดยสรุปภาพรวมแล้วไก่ไทยสามารถสู้กับไก่

ต่างประเทศ ทุกสายพันธุ์ได้ ไก่ไทยสู้ได้ขอเพียงแต่

1. นักเพาะไก่ทั้งหลาย ให้เพาะไก่ที่มีลีลาชั้นเชิงในการตีไว ตีแม่น ตีเจ็บให้มากกว่าไก่เชิง อย่าเอาไก่เชิงมากไปผสมกับไก่เชิงมากเช่นกัน

ลูกไก่ที่ได้จะเป็นไก่เชิงล้นไม่ค่อยตี พอไปตีก็มัวแต่เล่นเชิง พอถูกตีตัวและเหนื่อยเข้าก็หมดเชิงแต่ถ้าเพาะได้ ไก่เชิงดี ถี่ แม่น ลำโต

ก็สามารถพูดได้ว่าไก่ไทยเก่งที่สุดในโลก

2. ไก่ไทยเป็นไก่หนังบาง ส่วนไก่ไซง่อนเป็นไก่หนังหนาหากตีกันโดยมีการพันเดือยหรือสวมนวม ก็ไปเข้าทางของไก่ไซง่อนหากจะตีกับ

ไก่ ไซง่อนต้องตีแบบปล่อยเดือยตามธรรมชาติ ไก่ไซง่อนเจอเดือยเข้าก็สู้ไม่ได้ เพราะไก่ไทยไวกว่า แต่ถ้าตีกับไก่พม่าก็ห้ามปล่อยเดือย

เพราะไก่พม่าเป็นไก่แม่นเดือย

3. กำหนดเวลาชน เวลาชนของแต่ละยกต้องอยู่ในเวลา 20 นาทีอย่าให้เกินกว่านี้










สีไก่พม่ายอดนิยม



มาถึงวันนี้ไก่ชนพม่าครองตลาดมากขึ้น ก็พบว่าคนที่เล่นไก่พม่าเริ่มจะเลือกสีแล้วครับ คือสีที่อยากเลี้ยงอยากได้เป็นอันดับ 1 คือสีกรดดู่ครับ เพราะหลายท่านว่ามันสวยที่สุด

พม่าสีกรดดู่ถ้าเป็นลูกร้อยจริง หรือเลือดเข้มจริง ๆ จะมีลักษณะสำคัญคือ แข้งสีเขียวอมดำครับ แข้งสีอื่น ๆ เป็นพันธุ์ทางหรือลูกผสมครับ นอกจากสังเกตสีแข้งแล้วเรายังสังเกตสีตาได้ด้วยครับ เหล่ามาตรฐานของกรดดู่สีตาออก 3 แบบคือ ตาขาวแบบตาปลาหมดตาย หรือตาสีดำหรือตาลาย ส่วนตาสีอื่นเป็นพันธุ์ทางครับ เช่นพวกตาสีแดง ตาสีเหลืองอมแดง ตาสีขาวอมเหลือง เป็นต้น

สีที่ใกล้เคียงพม่าสีกรดดู่คือ สีกรดแดง ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับกรดดู่มาก แต่สีกรดแดงจะเป็นการผ่ามาจากเหล่าอื่นบ้างแล้วในชั้นปู่ย่าหรือ ทวด

สีอีกกลุ่มที่ที่ใกล้เคียงกรดดู่คือสีกรดเหลือง หรือกรดเหลืองส้ม พวกนี้เป็นตระกูลที่รองลงไปอีกมีความเด่นน้อยกว่ากลุ่มกรดดู่และกรดแดง คืออาจจะผ่านการผ่ามาหลายชั้นโดยการผสมแบบธรรมชาติ พวกสีกรดเหลืองแข้งจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นแข้งสีเหลืองบ้าง สีขาวบ้าง สีดำบ้างซึ่งไม่แน่นอน ส่วนสีตาก็จะเน้นเป็นสีตาเหลืองตาขาวเป็นส่วนใหญ่

หากถามว่าในบรรดาสีกรดควรเลือกสีใดเป็นหลัก โดยเลือกจากสีไม่ดูฝีมือนะครับ คือไก่นี่มีเก่งทุกสีนะครับ ถ้าเราใช้สีเป็นหลักเราก็ควรเลือกกรด

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

วิธีการดูแล



การเลี้ยงไก่สำหรับชนนั้น มีหลายอย่างหลายชนิดแล้วแต่ครูบาอาจารย์ใดจะสั่งสอนมา แต่ที่จะนำมากล่าวนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด ระยะการปล้ำและทำตัวไก่หนุ่ม ไก่หนุ่มที่จะเริ่มเลี้ยงครั้งแรก ต้องลงขมิ้นให้ทั่วทั้งตัวเสียก่อน เพื่อสะดวกในการอาบน้ำ และป้องกันไรได้ดีอีกด้วย

1.1. เริ่มอาบน้ำเวลาเช้าทุกวัน ควรใช้ผ้าประคบหน้าทุกครั้งที่มีการอาบน้ำ ลงกระเบื้อง เนื้อตัวบาง ๆ แล้วลงขมิ้นตามเนื้อบาง ๆ แล้วนำไปผึ่งแดด พอรู้ว่าหอบก็นำไก่เข้าร่ม อย่าให้กินน้ำจนกว่าจะหายหอบจึงจะให้กินน้ำได้ไก่ผอมไม่ควรผึ่งแดดให้มากเพราะจะทำให้ผอมมากไปอีก ถ้าอ้วนเกินไปต้องผึ่งแดดให้มากสักหน่อย เพราะจะทำให้น้ำหนักลดลงได้ ควรคุมน้ำหนักทุกครั้งที่มีการซ้อม และการเลี้ยงทุกวันตอนเช้า

2.2. อาบน้ำประมาณ 7 วัน แล้วจึงเริ่มซ้อมครั้งแรกสัก 2 ยก ๆ ละไม่เกิน 12 นาที ซ้อมสัก 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ซ้อมยกละ 15 นาที รวมแล้วให้ได้ 6 ยก ระยะการปล้ำแต่ละครั้งควรจะมีเวลาห่างกันประมาณ 10 -15 วันพอครบกำหนดแล้วต้องถ่ายยาตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว

ประวัติไก่ชน


ตำนานและประวัติไก่ชนกับพระนเรศวรการตีไก่ เป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางในพม่า โดยเฉพาะในราชสำนักถือกันว่า การตีไก่เป็นกีฬาชาววังวันหนึ่งได้มีการตีไก่กันขึ้นระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับไก่มังชัยสิงห์ ราชนัดดา(ต่อมาได้รับสถาปนาขึ้นเป็นพระมหาอุปราชาในสมัยพระเจ้านันทบุเรง ราชโอรสพระเจ้าบุเรงนอง กำลังกร่ำศึก) มังชัยสิงห์จึงขัดเคืองตรัสประชดประชันหยามหยันออกมา อย่างผู้ถือดีว่ามีอำนาจเหนือกว่า “ไก่เชลยตัวนี้เก่งจริงหนอ” สมเด็จพระนเรศวรสวรจึงตรัสโต้ตอบเป็นเชิงท้าอยู่ในทีว่า ไก่เชลยตัวนี้ อย่าว่าแต่จะตีกันอย่างกีฬาในวังเหมือนอย่าง วันนี้เลย ตีพนันบ้านเมืองกันก็ยังได้มังชัยสิงห์คัดเคืองมากหากแต่ตระหนักดีว่าสมเด็จพระนเรศวร เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าบุเรงนองจะพาลวิวาทก็ยำเกรงฝีมือพระนเรศวร ขณะที่ไก่ของสมเด็จพระนเรศวรกับไก่ของพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี กำลังชนกันอย่างทรหด ต่างตัวต่างเข้าจิก ตีฟาดแข้ง แทงเดือยอย่างไม่ลดละ อย่างคาดไม่ถึง ขณะที่ไก่ฟาดแข้งกันอย่างอุตลุดพัลวันเมื่อทั้งสองไก่พัวพันกันอยู่พักหนึ่ง ไก่ของพระมหาอุปราชก็มีอันล้มกลิ้งไปต่อหน้าต่อตา ไก่ของพระนเรศวรกระพือปีกอย่าง ทรนงและขันเสียงใส พระมหาอุปราชถึงกับสะอึก สะกดพระทัยไว้ไม่ได้จากตำราเชื่อว่าไก่ที่พระนเรศวรทรงนำไปชนกับพม่านั้น นำไปจากบ้านกร่าง เดิมเรียกว่าบ้านหัวเท ซึ้งอยู่ห่างจากเมืองพิษณุโลก ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 9 กิโลเมตร ขณะที่ชนไก่ พ.. 2121 พระชันษา 23 ปี ลักษณะทั่วไปของไก่ชนพระนเรศวร เป็นพันธุ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดคือ พันธุ์เหลืองหางขาว ตามตำรากล่าวว่า ไก่เหลืองหางขาวไก่เจ้าเลี้ยง ในทุกพื้นที่ที่มีการเล่นไก่ชน ไก่เหลืองหางขาวมักจะเป็นตัวเอกทุกๆ สังเวียนอยู่เสมอ หรือแทบจะเรียกได้ว่าไก่พันธุ์นี้อยู่ในความครอบครองของนักเลงไก่อยู่เสมอ ไก่เหลืองหางขาวจัดว่าเป็นไก่ที่มีสกุลและมีลักษณะเด่นมาก จากประวัติฝีมือความสามารถ ทำให้มีการพูดเสมอในวงพนันว่า ไก่เหลืองหางขาวกินเหล้าเชื่อ หมายความว่าเมื่อนำไก่สีนี้ไปตี สามารถที่จะเชื่อมั่นได้ว่า จะต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอนสามารถสั่งเหล้าเงินเชื่อมากินก่อนได้เลย ไก่เหลืองหางขาวที่มีลักษณะตรงตามตำราหน้าหงอนบาง กลางหงอนสูง สร้อยระย้า หน้านกยูง อกชัน หวั้นชิด หงอนบิด ปากร่อง พัดเจ็ด ปีกสิบเอ็ด เกล็ดยี่สิบสอง ถือเป็นไก่ชั้นเยี่ยม




วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เกล็ดความรู้และวิธีดูลักษณะไก่สายพันธุ์พม่าที่มีเลือดสูง


เกล็ดความรู้และวิธีดูลักษณะไก่สายพันธุ์พม่าที่มีเลือดสูง
ก่อนอื่นกระผมเองต้องขออนุญาติเพื่อนๆพี่ๆชาวตลาดไก่ชนซึ่งบ้างครั้งอาจจะมี ข้อมูลผิดพลาดไปบ้างในบ้างข้อมูลสำหรับท่านผู้มีประสพการณ์ในด้านการดู ลักษณะไก่ชนพม่าที่มีเลือดพม่าสูงนั้น ซึ่งตัวกระผมเองนั้นข้อมูลที่ได้นำเสนอและบอกกล่าวกับเพื่อนๆพี่ๆชาวตลาดไก่ ชนไปนั้นกระผมได้เก็บเกี่ยวมาจากประสพการณ์ที่กระผมได้สำผัสไก่ชนสายพันธุ์ นี้มานานพอสมควรและถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดหรือมีข้อแนะนำที่ดีเป็นประโยชน์ ต่อพี่น้องชาวตลาดไก่ชนก็สามารถบอกกล่าวแนะนำเพื่อเป็นเกล็ดความรู้สำหรับ พี่ๆเพื่อนๆที่ยังไม่ทราบได้ครับ เริ่มกันเลยดีกว่าครับการดูลักษณะไก่ชนพม่าที่มีสายเลือดพม่าสูงนั้นมีหลัก อยู่ 7 ประการ ประการที่1.ใบหน้า พม่าเลือด 100 ที่พบส่วนมากจะเป็นใบหน้าคล้ายหน้านกกระจอก ใบหน้าไม่ใหญ่และสั้น ผิวหน้าจะบาง คิ้วจะไม่เป็นคิ้วลิงโดยเด็ดขาด


ประการ ที่ 2. ตาของไก่พม่าเลือด 100 ที่สายเลือดสูงๆนั้นจะตากลมลักษณะตาโปนเหมือนตาไก่แจ้สีสดใสเป็นมันวาวเส้น เลือดในตาด้านนอกเห็นได้ชัดเจนลูกตาดำจะไม่หยุดนิ่งเดี่ยวเล็กเดี่ยวใหญ่ เรียกง่ายตารอกแรกไม่อยู่เฉยระวังตัวตลอดเพราะมีสัญชาติญาณไก่ป่าสูงสีของตา จะต่างกันไปตามลักษณะพันธุ์กรรมและสีของขนสร้อยและลำตัวเช่นถ้าไก่พม่าสี หวายตาต้องเป็นสีปลาหมอตายหรือสีฟ้าเป็นต้น
ประการ ที่ 3.ปากของไก่พม่าเลือด 100 ที่พบส่วนมากจะปากเป็นลักษณะตรงไปข้างหน้าไม่สั้นและงุ้มงอและมีลักษณะบาง ที่พบส่วนมากจะไม่มีร่องน้ำที่ปากถ้าไก่ที่มีลักษณะปากหนามีร่องน้ำและงุ้ม งอขอให้สันนิฐานได้เลยว่าไก่ตัวนั้นเป็นไก่พม่าลูกผสมส่วนสีของปากจะเป็นสี เดียวตลอดทั้งปากและสีเดี่ยวกับแข้ง
ประการที่4.ลักษณะหงอนพม่าเลือด 100 ที่ดีในส่วนตัวกระผมจะเป็นหงอนนาคราช หรือหงอนแจ้ ยิ่งปายหงอนชี้สูงมากเท่าไรยิ่งดีแต่สำหรับหงอนในลักษณะอื่นก็มีแล้วแต่ พันธุ์กรรมของแต่ละสายพันธุ์ครับขอให้หงอนในลักษณะต่างๆรับกับใบหน้าของไก่ ตัวนั้นๆ และมีหน้าหงอนบางถือว่าใช้ได้ครับ
ประการที่ 5.ลำตัวและรูปทรงของพม่าเลือด 100จะไม่จับยาวสองทอนหรือจับสวยเหมือนไก่ไทยโดยเด็ดขาดพม่าที่มีสายเลือด สูงๆจริงๆ จะมีลักษณะหาง
ดกอกตั้งกระดูกลำตัวค่อนข้างสั้นบางลำตัวมี ลักษณะสั้นคล้ายลูกมะพร้าวหรือมะขามข้อเดี่ยวกระดูกปล้องคอจะถี่สั้นและบาง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อลักษณะเชิงชนที่จะหลุดลอดของไก่พม่า

ประการ ที่ 6.ลักษณะสีขนตัวและสร้อยคอและสร้อยหลังส่วนมากจะมีหลายสีแต่สีที่กระผมเลือก และชอบมากเป็นอันต้นคือสีเทาหรือสีหม่นและสีดู่แดง,ดำ ส่วนสีอื่นก็รองลงมา ลักษณะสร้อยคอหนายาวเป็นระย้าปะหลังและสร้อยหลังก็เช่นเดียวกันส่วนปีกก้าน ปีกต้องหนาใหญ่และยาวคุมถึงก้น ส่วนลักษณะหางที่ดีต้องหางกระดกไม่ยาวแค่ประมาณครึ่งศอกก็พอส่วนสีขนหางต้อง สีดำสนิทไม่ว่าจะเป็นพม่าสีไหนก็ตามถ้ามีสีขาวปนขอให้พี่ๆเพื่อนๆนึกได้เลย ไก่ตัวนั้นเป็นไก่ลูกผสม

ประการ ที่7.สุดท้ายเกล็ดแข้ง,เล็บ,เดือย เกล็ดแข้งที่พม่านั้นเท่าที่ผ่านมากระผมจะไม่คำนึงถึงลักษณะของเกล็ดไก่ เหมือนไก่ชนไทยเราอันนี้แล้วแต่ความเชื่อและสันทัดนะครับแต่กระผมจะคำนึง อยู่อย่างหนึ่งคือขอให้ไก่ตัวนั้นขาไม่ยาวไม่สั้นจนเกินไปลักษณะสมส่วนกับ สรีระร่างกายแข้งกลมเหมือนรำเทียนเกล็ดหน้าแข้งมีลักษณะบางท้องแข้งอิ่มและ ที่สำคัญต้องสีเดียวกับปากถ้าสีดู่แดงหรือดู่ดำปากกับแข้งต้องดำถ้าสีสาขาว ปากกับแข้งต้องสีเหลืองหรือสีขาว(แข้งตะกั่ว)ให้รับกับลักษณะสีขนของไก่ตัว นั้นด้วย ส่วนเล็บไก่พม่าที่ดีต้องมีสีดำปนอยู่ทุกเล็บถ้าเล็บไม่มีสีดำปนทุกเล็บก็ขอ ให้เล็บที่สีดำตรงจุดกันพูดง่ายๆถ้ามีสีดำที่นิ้วชี้ข้างขวานิ้วชี้ข้างซ้าย ก็ต้องสีดำเช่นกัน ส่วนลักษณะเดือยที่ดีต้องมีลักษณะเดือยใหญ่ปลายเดือยทิ่มลงหาพื้นดินและตรง และอยู่ในลักษณะต่ำใกล้นิ้วก้อยให้มากที่สุดถึงจะดีครับ)

ข้อมูล ต่างๆที่ก็ผมได้เสนอและบอกกล่าวไปไม่ใช่ว่าจะถูกเสมอไปแต่เป็นข้อคิดและแนว ทางที่จะเป็นทางเลือกดูลักษณะไก่ชนพม่าสายเลือดสูงๆได้ครับและอีกอย่างหนึ่ง ที่ควร ครับคำนึงถึงในพม่าสายเลือด100 สำหรับผู้ที่จะเลี้ยงชนควรรออายุเพื่อให้กระดูกและเดือยมั่นเสียก่อนสาเหตุ เนื่องจากไก่ชนพม่าจะใช่เดือยเป็นอาวุธที่สำคัญในการพิชิตคู่ต่อสู้และควร เสริมสร้างสภาพจิตใจให้แก่งก่อนเพราะไก่ที่ใช้ชนในสนามในแต่ละภูมิภาคจะไม่ เหมือนกันและลักษณะกติการชนก็ไม่เหมือนกันกระผมขอให้คำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย ครับเพื่อเป็นประโยชน์กับเจ้าพม่าตัวน้อยของเราถ้าอย่างไรขอให้พี่ๆเพื่อนๆ ได้ใช้วิจารณาณอีกครั้งเพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกเจ้าพม่าตัวน้อยของพวก เราต่อไปครับขอบคุณครับ

ลักษณะเด่นของไก่ชน



ลักษณะเด่นของไก่ชน





ไก่ชนพม่า - เป็นไก่ที่มีความเร็ว คม แม่น และไอคิวเป็นเลิศ
มีแผลตีที่ดีกว่าไก่ชนสายพันธุ์อื่นๆ คือ ไก่พม่าจะตีแผลวงแดงเป็นส่วนใหญ่
แต่ไก่ชนพม่าจะมีข้อเสีย คือ ไก่พม่า 100 มักจะมีกระดูกเล็ก และบางกว่า
จึงทนการชนแบบทางยาวไม่ค่อยได้ดีเท่าไร
ไก่ชนป่าก๋อย - เป็นไก่ที่มีเชิงดี มุด มัด กัดบ่า ตีตัว ตามสไตล์ป่าก๋อย เป็นไก่ที่ดุมาก

ไก่ชนไซ่ง่อน - ข้อดีของไก่ไซ่ง่อนก็คือ โครงสร้าง เนื้อ หนัง กระดูกดีมาก ระบบหายใจดี ดื้อแข้ง และฟื้นตัวเร็ว
แต่ข้อเสียคือ เป็นไก่ที่ช้า และไม่ค่อยฉลาด

ไก่ชนญี่ปุ่น - เป็นไก่โครงสร้างดีมาก ปอดดี ดื้อแข้ง เหมือนไซ่ง่อน แต่มีไอคิวดีกว่าไซ่ง่อน เป็นไก่อาฆาตตี
ซ้ำไก่ ดุกว่าไซ่ง่อน ข้อเสียคือ เป็นไก่ตัวใหญ่จึงช้าและหาคู่ตีด้วยยาก